Laws & Standards

เปรียบเทียบ : ISO 45001 ต่างจาก OHSAS 18001 อย่างไร

ในโลกปัจจุบัน องค์กรจำนวนมากต่างให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยอย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน และเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ผู้ถือหุ้น ตลอดจนภาคสังคม มาตรฐาน ISO 45001 จึงได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางให้กับองค์กรในการวางระบบบริหารด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (Occupational Health & Safety Management System: OH&S) ให้เป็นระบบและเป็นไปตามหลักสากล

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีมาตรฐาน OHSAS 18001 (Occupational Health & Safety Assessment Series) อยู่แล้ว ทำไมจึงมีการพัฒนา ISO 45001 ขึ้นมาอีก? หากองค์กรเคยได้รับการรับรอง OHSAS 18001 แล้วต้องทำอย่างไรต่อ? และมีความแตกต่างที่สำคัญอย่างไรบ้างระหว่างสองมาตรฐานนี้? บทความนี้จะพาคุณผู้อ่านมาไขข้อสงสัย พร้อมทั้งอธิบายให้เห็นภาพของประโยชน์ และเปรียบเทียบแนวทางข้อกำหนด เพื่อให้เข้าใจง่ายและนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล

ISO 45001 คืออะไร

ISO 45001 คือ มาตรฐานระบบบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (OH&S) ที่ออกโดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (International Organization for Standardization: ISO) ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยให้องค์กร

1. สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ
2. ป้องกันการบาดเจ็บ การเจ็บป่วยจากการทำงาน
3. ควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการปฏิบัติงาน
4. ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

ISO 45001 ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นที่นิยมในวงกว้าง เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่มีหลักการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในรูปแบบเชิงระบบ ที่สามารถผนวกเข้ากับมาตรฐานสากลอื่น ๆ ที่องค์กรใช้อยู่ได้อย่างง่ายดาย

OHSAS 18001 คืออะไร

OHSAS 18001 (Occupational Health & Safety Assessment Series) เดิมทีเป็นมาตรฐานในรูปแบบซีรีส์ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยกลุ่มหน่วยงานรับรองมาตรฐานจากสหราชอาณาจักร (BSI และองค์กรอื่น ๆ) โดยมีแนวคิดเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ มีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับระบบบริหารจัดการ ISO อื่น ๆ แต่ในทางเทคนิคแล้ว OHSAS 18001 ไม่ได้ถูกพัฒนาโดยคณะกรรมการ ISO อย่างเป็นทางการ ทำให้การยอมรับในระดับโลกไม่เทียบเท่ากับมาตรฐานหลักอื่น ๆ ของ ISO

เนื่องจากความต้องการให้เกิดมาตรฐานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่เป็นระบบสากลขึ้น จึงมีการพัฒนา ISO 45001 เพื่อทดแทน OHSAS 18001 โดยตรง องค์กรที่เคยได้รับรอง OHSAS 18001 จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปเป็น ISO 45001 เพื่อการรับรองตามมาตรฐานใหม่ที่มีความครอบคลุมและเป็นมาตรฐานระดับสากลอย่างแท้จริง

ความแตกต่างระหว่าง ISO 45001 กับ OHSAS 18001

  1. โครงสร้างตาม Annex SL
    ISO 45001 ได้รับการพัฒนาด้วยโครงสร้างระดับสูงที่เรียกว่า Annex SL ซึ่งเป็นโครงสร้างเดียวกันกับมาตรฐาน ISO อื่น ๆ เช่น ISO 9001 (คุณภาพ) และ ISO 14001 (สิ่งแวดล้อม) ทำให้ง่ายต่อการผนวกระบบบริหารจัดการเข้าด้วยกัน ในขณะที่ OHSAS 18001 ไม่มีโครงสร้างแบบ Annex SL จึงอาจมีความยุ่งยากในการทำงานร่วมกับมาตรฐานอื่น ๆ
  2. การให้ความสำคัญกับบริบทขององค์กร (Context of the Organization)
    ISO 45001 กำหนดให้ต้องวิเคราะห์ “บริบทองค์กร” เพื่อระบุปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่อาจมีผลต่อระบบความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ทำให้เกิดการจัดการเชิงรุกและเหมาะสมตามสภาพจริง ในขณะที่ OHSAS 18001 ไม่ได้มีข้อกำหนดให้วิเคราะห์บริบทนี้อย่างชัดเจน
  3. การมีส่วนร่วมของผู้นำและพนักงาน
    ISO 45001 เน้นให้ “ผู้บริหารระดับสูง” เข้ามามีส่วนร่วมในการวางนโยบายและตัดสินใจ เพื่อสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้พนักงานมีบทบาทในการระบุอันตราย ประเมินความเสี่ยง และเสนอแนวทางปรับปรุง ในขณะที่ OHSAS 18001 แม้จะมีข้อกำหนดให้ผู้บริหารรับผิดชอบ แต่ไม่ได้มุ่งเน้นถึงความเป็นผู้นำ (Leadership) และการมีส่วนร่วมของพนักงาน (Worker Participation) อย่างชัดเจนเท่า ISO 45001
  4. แนวคิดในการประเมินความเสี่ยงเชิงรุก (Risk-based Thinking)
    ISO 45001 ยกระดับการประเมินความเสี่ยงให้เป็น “Risk-based approach” ซึ่งไม่เพียงแต่ระบุความเสี่ยงในกระบวนการทำงานเท่านั้น แต่ยังต้องวิเคราะห์โอกาสในการปรับปรุงและป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงกระบวนการกำกับดูแลความต่อเนื่องของธุรกิจ (Business continuity) ในขณะที่ OHSAS 18001 จะให้ความสำคัญกับการระบุและประเมินอันตรายเป็นหลัก
  5. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continual Improvement)
    แม้ทั้งสองมาตรฐานจะมีวงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) เป็นพื้นฐาน แต่ ISO 45001 เน้นย้ำถึงกระบวนการปรับปรุงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของระบบ การลดความเสี่ยง หรือการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงาน ในขณะที่ OHSAS 18001 แม้จะมีแนวคิดปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้กำหนดรายละเอียดในเชิงรุกเทียบเท่า ISO 45001

ประโยชน์ของการเปลี่ยนมาใช้ ISO 45001

  • ได้รับการยอมรับสากล
    เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดย ISO อย่างเป็นทางการ ทำให้การรับรอง ISO 45001 ได้รับความน่าเชื่อถือในระดับสากล สามารถใช้ในการเจรจาธุรกิจกับลูกค้าหรือพันธมิตรในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผนวกระบบบริหารได้ง่าย
    ด้วยโครงสร้าง Annex SL ที่สอดคล้องกันกับมาตรฐาน ISO อื่น ๆ เช่น ISO 9001, ISO 14001 ช่วยให้องค์กรที่ได้รับการรับรองหลายมาตรฐาน สามารถบูรณาการระบบบริหารจัดการได้อย่างสะดวก ลดความซ้ำซ้อนและลดต้นทุนในการดำเนินการ
  • พัฒนาวัฒนธรรมความปลอดภัย
    ISO 45001 เน้นความเป็นผู้นำของผู้บริหารและการมีส่วนร่วมของพนักงาน ซึ่งส่งเสริมให้เกิด “วัฒนธรรมความปลอดภัย” ที่ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญและร่วมกันปรับปรุงให้สภาพแวดล้อมการทำงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
    การบริหารความเสี่ยงเชิงรุกตาม ISO 45001 ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ป้องกันการบาดเจ็บและการเจ็บป่วย ทำให้องค์กรลดต้นทุนจากค่ารักษาพยาบาล ค่าประกัน และการสูญเสียเวลาในการทำงานของพนักงาน
  • เสริมสร้างความยั่งยืนและภาพลักษณ์ที่ดี
    องค์กรที่ดูแลด้านความปลอดภัยของพนักงานอย่างจริงจัง ย่อมได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในทางบวก และอาจส่งเสริมให้ธุรกิจได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่คำนึงถึงเกณฑ์ด้านสังคม (Social) และสิ่งแวดล้อม (Environmental) อีกด้วย

ข้อควรพิจารณาเมื่อต้องการอัปเกรดจาก OHSAS 18001 เป็น ISO 45001

  • การวิเคราะห์ช่องว่าง (Gap Analysis) : เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าระบบบริหารขององค์กรอยู่ในระดับใดเมื่อเทียบกับข้อกำหนดของ ISO 45001 เพื่อวางแผนปรับปรุงอย่างมีเป้าหมายชัดเจน
  • การกำหนดบริบทองค์กร : ระบุปัจจัยภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องกับ OH&S เพื่อจัดการความเสี่ยงและใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม
  • ความเป็นผู้นำและการมีส่วนร่วม : สร้างความตระหนักและสนับสนุนให้ผู้บริหารระดับสูงและพนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการ เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยให้แข็งแกร่ง
  • ปรับปรุงระบบเอกสาร : อัปเดตเอกสาร วิธีปฏิบัติงาน บันทึกต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับข้อกำหนด ISO 45001
  • การอบรมและสื่อสาร : สร้างความเข้าใจแก่พนักงานเกี่ยวกับข้อกำหนดใหม่ ชี้แจงประโยชน์ และวิธีการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย
  • การตรวจสอบภายในและติดตามผล : จัดทำการตรวจสอบภายใน (Internal Audit) อย่างสม่ำเสมอ พร้อมเก็บข้อมูลและนำไปวางแผนปรับปรุงในรอบถัดไป

สรุป

ISO 45001 เป็นมาตรฐานใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่ OHSAS 18001 ในการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ภายใต้หลักการบริหารเชิงระบบที่เชื่อมโยงกับมาตรฐาน ISO อื่น ๆ ผ่านโครงสร้าง Annex SL ทำให้ง่ายต่อการผนวกและบูรณาการในองค์กร จุดแข็งของ ISO 45001 อยู่ที่การเน้นการมีส่วนร่วมของผู้นำและพนักงาน การวิเคราะห์บริบทองค์กรอย่างรอบด้าน และการประเมินความเสี่ยงเชิงรุก ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้องค์กรสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน อีกทั้งยังยกระดับภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในสายตาผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตร และสังคมโดยรวม

สำหรับองค์กรที่เคยได้รับรอง OHSAS 18001 การอัปเกรดเป็น ISO 45001 แม้อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการปรับปรุงระบบ แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะช่วยประกันว่าองค์กรมีแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลแล้ว ยังเป็นการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้ฝังลึกในกระบวนการทำงาน เสริมสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดี ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย

ดังนั้น หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงระบบบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย การศึกษาและนำ ISO 45001 มาประยุกต์ใช้อย่างจริงจัง ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ทางธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น พร้อมรับมือกับความท้าทายและข้อกำหนดต่าง ๆ ในอนาคตได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ

Back to top button