ฝึกอบรม

เทคนิคการสอนความปลอดภัยให้เข้าใจง่าย และ สนุก

แนวคิดการนำเกมหรือบทบาทสมมุติมาประยุกต์ใช้ในการฝึกอบรม

การสอนหลักสูตรความปลอดภัยอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับวิทยากรหรือ จป (เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย) หลายคน เพราะเนื้อหาด้านความปลอดภัยนั้นมักถูกมองว่า “แห้ง” หรือ “เป็นกฎระเบียบที่ต้องท่องจำ” ทำให้ผู้เข้าอบรมขาดแรงจูงใจและมีส่วนร่วมได้ยาก อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแนวคิดและเทคนิคใหม่ ๆ ในการสอนที่ช่วยเพิ่มความสนุกและความเข้าใจได้มากขึ้น โดยเฉพาะการนำเกมและบทบาทสมมุติมาประยุกต์ใช้ในการฝึกอบรม ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถดึงดูดความสนใจ เสริมสร้างความจำ และกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมการสอนความปลอดภัยจึงควร “สนุก” และ “เข้าใจง่าย”

  1. ช่วยกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม
    เมื่อผู้เรียนรู้สึกสนุก พวกเขาจะเปิดใจและมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากขึ้น การที่ผู้เข้าอบรมได้ลงมือทำหรือมีโอกาสโต้ตอบกับเพื่อนร่วมงานจะช่วยให้เนื้อหาความปลอดภัยซึ่งอาจเป็นเรื่องทางเทคนิค กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวและน่าสนใจยิ่งขึ้น
  2. สร้างความทรงจำที่ชัดเจน
    การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ใช้เกมหรือบทบาทสมมุติ จะทำให้สมองเชื่อมโยงข้อมูลกับประสบการณ์จริงมากขึ้น จึงช่วยให้ผู้เรียนจดจำข้อมูลได้ง่ายและยาวนานกว่าการนั่งฟังบรรยายแบบเดิม ๆ
  3. เปิดโอกาสให้ทดลองผิดถูก
    การสอนแบบมีเกมหรือบทบาทสมมุติเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ทดลองปฏิบัติ และหากเกิดข้อผิดพลาด ก็สามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้นได้ทันทีในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ก่อนที่จะนำไปใช้จริงในสถานที่ทำงาน

แนวคิดการนำ “เกม” มาประยุกต์ใช้ในการฝึกอบรม

  1. เกมแบบแข่งขัน (Competitive Games)
    การสร้างการแข่งขันเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การตอบคำถามชิงคะแนน การเล่นบอร์ดเกมที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์อันตรายในที่ทำงาน หรือเกมสั้น ๆ ที่ให้ผู้เรียนได้แข่งขันกัน จะช่วยกระตุ้นความกระตือรือร้นและสร้างความสามัคคีในกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. เกมแบบร่วมมือ (Cooperative Games)
    บางสถานการณ์ในด้านความปลอดภัยต้องการความร่วมมือเป็นพิเศษ การออกแบบเกมที่ผู้เล่นต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา เช่น การแก้ไขอุปสรรคหรือสถานการณ์จำลอง เพื่อให้ทุกคนปลอดภัย จะช่วยตอกย้ำแนวคิดการทำงานเป็นทีม และทำให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญของการสื่อสารและการรับฟังซึ่งกันและกัน
  3. เกมดิจิทัลหรือแอปพลิเคชัน (Digital / App-Based Games)
    ในยุคดิจิทัล อาจประยุกต์ใช้แอปพลิเคชันหรือเกมออนไลน์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาความปลอดภัย เช่น เกมจำลองสถานการณ์ไฟไหม้ เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกตัดสินใจ รวมถึงใช้อุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น แว่น VR (Virtual Reality) เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบสมจริง

การนำ “บทบาทสมมุติ” มาใช้ในการฝึกอบรม

  1. กำหนดสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับการทำงานจริง
    เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ความเสี่ยงและอันตรายที่เกิดขึ้นจริงในสถานที่ทำงาน แล้วออกแบบบทบาทสมมุติให้ผู้เรียนได้รับบทบาทของผู้เกี่ยวข้อง เช่น พนักงานใหม่ พนักงานซ่อมบำรุง หรือผู้จัดการแผนก เพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นมุมมองและความสำคัญของการทำตามกฎความปลอดภัยในบทบาทที่ตนรับผิดชอบ
  2. ส่งเสริมการสื่อสารและความเข้าใจร่วมกัน
    ในการดำเนินการบทบาทสมมุติ ให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการสื่อสาร การให้คำแนะนำ หรือการประเมินความเสี่ยงร่วมกันในกลุ่ม สิ่งนี้ช่วยพัฒนาความเข้าใจร่วมกันและทำให้การสื่อสารด้านความปลอดภัยในองค์กรดีขึ้น
  3. ให้ฟีดแบ็กทันที
    หลังจากจบการจำลองสถานการณ์ ควรมีการให้ฟีดแบ็กทันที เพื่ออธิบายจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง วิธีนี้จะทำให้ผู้เรียนตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการกระทำของตนเอง และได้ปรับแนวคิดเพื่อปฏิบัติได้ถูกต้องในอนาคต

เคล็ดลับในการประยุกต์ใช้เกมและบทบาทสมมุติ

  1. เลือกเกมหรือสถานการณ์ที่เหมาะสม
    ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ จำนวนผู้เข้าอบรม และสภาพแวดล้อมการทำงาน เพื่อเลือกเกมหรือกิจกรรมที่ง่ายต่อการนำมาใช้จริง
  2. ออกแบบกติกาและการวัดผลชัดเจน
    กำหนดกติกา เวลา และเกณฑ์การให้คะแนน หรือการประเมินผลงานของผู้เรียนอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการและรู้เป้าหมายของกิจกรรม
  3. สร้างบรรยากาศเชิงบวก
    สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายและเป็นกันเอง จะช่วยให้ผู้เรียนไม่กลัวที่จะทำผิดพลาด และกล้าแสดงความคิดเห็น ทั้งยังส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันอีกด้วย
  4. สรุปและเชื่อมโยงกับสถานการณ์จริง
    หลังจบกิจกรรม อย่าลืมเชื่อมโยงบทเรียน หรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับงานจริง เพื่อให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและสามารถประยุกต์ใช้ทักษะในชีวิตประจำวันหรือการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม

สรุป

การประยุกต์ใช้เกมหรือบทบาทสมมุติในการฝึกอบรมความปลอดภัย ถือเป็นแนวทางที่ช่วยยกระดับการเรียนรู้ให้มีชีวิตชีวามากขึ้น โดยผสมผสานความสนุกสนานเข้ากับเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ผู้เข้าอบรมจะได้ทั้งความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จริงที่สามารถต่อยอดไปสู่การปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ผู้สอน หรือ จป จึงควรคำนึงถึงความเหมาะสมในการเลือกกิจกรรม รูปแบบการวัดผล และการดูแลบรรยากาศการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจง่าย รู้สึกสนุก และเกิดความตระหนักในความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมที่ยั่งยืนในองค์กรได้อย่างแท้จริง

Back to top button